
นอกจากหัวหินจะมีทะเลที่สวยมากแล้วอย่างที่เคยรวบรวมไว้ใน เปรียบเทียบทะเลหัวหินใน 12 เดือน
รอบๆ หัวหินยังมีที่เที่ยววิวธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งมีภูเขาให้ปีน มีป่าเขียวๆ ให้ส่องสัตว์ มีวาฬในทะเล มีบึง มีนา มีดอกไม้ พริมสะสมที่เที่ยวรอบๆ ไว้เยอะเพราะแวะไปนู่นนี่ทุกครั้งที่ไปหัวหิน แต่ขอคัดแค่ 10 ที่ที่ประทับใจที่สุดเอามาแนะนำในบทความนี้นะคะ บางที่ทุกคนอาจจะเคยไป แต่คิดว่าการไปต่างช่วงเวลากันก็อาจให้ภาพที่แตกต่างได้
บทความนี้น่าจะเหมาะสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศการไปเที่ยวหัวหินให้หลากหลายขึ้น หรือคนที่กำลังเบื่อเวลาเพื่อนชวนไปเพราะรู้สึกไม่เห็นมีอะไรเที่ยวเลย ต่อจากนี้จะมีแล้วนะคะ หลายสถานที่อยู่นอกหัวหินก็จริง แต่สามารถไปแล้วกลับมานอนหัวหินได้สบายเหมือนเป็น one day trip ตัวพริมเองก็เลือกนอนหัวหินตลอด เพราะตอนกลางคืนคึกคัก มีอาหารให้เลือกหลากหลายดี
เขาแดง สามร้อยยอด
ดูวาฬ ดูตาล และดูนา แหลมผักเบี้ย
ซาฟารีส่องสัตว์ในป่ากุยบุรี
บึงบัว ทุ่งสามร้อยยอด
เขื่อนปราณบุรี หมึกแดด และสับปะรด
ป่าชายเลน วนอุทยานปราณบุรี
วนอุทยานท้าวโกษา
เขาหินเหล็กไฟ
หาดหัวหินที่สวยตลอดปี + InterContinental Huahin
จุดชมวิวที่สวยและสูงที่สุดในหัวหิน + Holiday Inn Vana Nava *** และอย่าลืม คลิกเพื่อลุ้นที่พักฟรีมูลค่า 4500 บาท

1️⃣ เขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
เหตุผลที่เลือกเขาแดงขึ้ินมาอันแรก ไม่ใช่เพราะวิวจากบนเขาแดงเอง แต่เพราะชอบวิวน้ำสีแดงๆ ฟ้าๆ ท่ามกลางพื้นดินที่แห้งแตกรอบเขาแดงค่ะ มันอาจมีแร่ธาตุอะไรบางอย่างแบบน้ำที่ฟลามิงโก้ชอบอยู่ก็ได้ พริมเคยขับรถผ่านเส้นนี้หลายครั้งแต่เพิ่งบังเอิญเจอรอบนี้

ครั้งแรกที่มาเขาแดงขึ้นไม่สำเร็จ เพราะเป็นช่วงเย็นในฤดูฝน ยุงลายจึงชุมแบบยากันยุงก็เอาไม่อยู่ ขนาดพอกแขนขาไปมันยังกล้ามาเกาะพร้อมกันเป็นสิบตัว ที่โหดคือสะบัดแขนก็แล้ว วิ่งก็แล้ว แต่ยุงก็ยังเกาะไม่ปล่อย จนต้องรีบหนีขึ้นรถกันหมด

ถึงภูเขาหินสีเทาเข้มที่ตั้งตรงหน้าจะดูสูงชันจนไม่น่าเชื่อว่าจะเดินขึ้นไปได้ แต่ทางเดินจริงๆ ไม่ยาก มีแค่ทางบางช่วงจะงงๆ หน่อยเพราะป้ายบอกทางปักห่างกัน เมื่อเดินถึงจุดที่มีเชือกให้ไต่เกาะนั่นคือเพิ่ง 1/4 ของทางขึ้นนะคะ ช่วงไหนหินก้อนสูงใหญ่เราก็อาศัยจับต้นไม้โหนขึ้นลงช่วยทุ่นแรงได้ ส่วนตอนลงช่วงที่ชัน พริมก็นั่งถัดๆ ลงมาเพราะมันเร็วกว่า ปรากฏกางเกงขาดเป็นรูเท่ากำปั้น 😳 แสดงว่าวิธีนี้ไม่ควรทำ 55

ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้นก็ขึ้นไปถึงด้านบนได้สำเร็จ บนนี้ไม่มีต้นไม้ใดสูงพอจะให้ร่มเงาได้อีกแล้ว ความร้อนอบอ้าวและแดดเที่ยงเลยเล่นเอาตาพร่าจนเกือบเป็นลม สุดท้ายจึงต้องขยับลงมานอนพักใต้ต้นไม้ให้หายดีแล้วขึ้นไปใหม่ ไม่น่าเชื่อเลยว่านี่คือกลางฤดูฝนจริงๆ ดินรอบตัวที่พริมนอนอยู่แห้งจนแตก เงยหน้าดูก็เห็นใบไม้ที่แห้งกรอบนิ่งสนิท ไม่มีแม้ลม ถึงว่าตอนเที่ยงไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย 😅

จากจุดชมวิวบนยอดเขาแดงนี้ วิวแรกที่เห็นคือทะเลค่ะ เห็นแล้วอาจจะคิดว่าเนี่ยนะที่ถ่อขึ้นมา แต่เมื่อไหร่ที่เดินอ้อมพุ่มไม้ลอดไปด้านหลัง บอกได้เลยว่าจะรู้สึกเกินคุ้มในทันที เพราะวิวที่รออยู่คือเขาหลายร้อยยอด มีทั้งที่อยู่ใกล้และไกล ไล่ต่ำลงมาก็จะเป็นบล็อคนากุ้ง แต่ละหลุมสีฟ้าคนละเฉดสวยดี แล้วล่างสุดเป็นกลุ่มหมู่บ้านชาวประมงที่ดูเล็กจิ๋วไปเลยเมื่อเทียบกับภูเขา
🚗 — เขาแดง 60 กม.จากหัวหิน ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
📆 — เปิด 8.00-15.30 สวยสุดตอนพระอาทิตย์ขึ้นลง อยู่นอกเวลาทำการ แต่ขึ้นได้ถ้าติดต่อล่วงหน้า
⏰ — เดินขึ้นลงเขาไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมง
💰 — ค่าเข้าอุทยาน 40 บาท ใช้ได้ทุกที่ทั้งวัน ต้องจ่ายที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่อยู่เยื้องไป
2️⃣ แหลมผักเบี้ย ดูวาฬ ดูตาล ดูนา
ตอนแรกตั้งใจว่าจะไปดูวาฬบรูด้า (Bryde) ที่สมุทรสงคราม เพราะขับรถเพียงแค่ชั่วโมงครึ่งจากกรุงเทพเท่านั้น แต่มารู้ทีหลังว่าเรือจากที่นี่ต้องเหมาทั้งลำ ถ้าไปขึ้นที่เพชรบุรีสามารถจ่ายเป็นรายหัวได้ ทริปนี้จึงขับรถยาวไปแหลมผักเบี้ยที่เพชรบุรีแทนค่ะ ห่างจากหัวหินแค่เพียงชั่วโมงเดียว สามารถแวะดูวาฬแล้วตรงต่อไปเที่ยวหัวหินได้เลย ระหว่างทางยังได้เที่ยว สวนตาล และทุ่งนาด้วย

บนเรือประมงขนาดกลางที่ทุกวันใช้หาปูม้าแต่วันนี้จะพานักท่องเที่ยวไปดูวาฬ อากาศยามเช้าบนเรือค่อนข้างหนาว ยิ่งเรือแล่นเร็วๆ จนน้ำทะเลสาดขึ้นมาเปียกไปทั้งตัวก็ยิ่งหนาวจนตัวสั่น เมื่อมีเรือลำไหนเจอวาฬก่อน เค้าก็จะส่งสัญญาณตามสายมาบอกพิกัด จึงไม่ยากเลยที่จะได้เห็นบรูด้า เดี๋ยวมุดดำตรงนู้น ไปโผล่ตรงนั้น มีครั้งนึงที่กำลังหาๆ กันอยู่ว่าหายไปไหนแล้ว มันกลับโผล่ขึ้นข้างเรือที่พริมนั่งเลย ตอนนั้นคือตกใจจนหงายหลังจริงๆ 55 ตัวใหญ่กว่าเรืออีก
🚗 — ท่าเรือแหลมผักเบี้ย 60 กิโลเมตรจากหัวหิน ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
📆 — ปีนึงดูวาฬได้แค่ 4 เดือนสุดท้ายของปี คือกันยายน-ธันวาคม เรือออกแค่ 8 โมงเช้า
⏰ — ปกติใช้เวลาบนเรือ 4-5 ชั่วโมง แต่ถ้าไม่เจอวาฬก็จะหาไปเรื่อยๆ ตอนพริมไปนี่ 7 ชั่วโมง
💰 — ค่าเรือพร้อมอาหารเช้าเที่ยงคนละ 800 บาท หรือเหมาลำไม่รวมอาหาร 5300 บาท

จากที่ตั้งใจจะถ่ายรูปวาฬมาลงในนี้ให้เป็น 1 ใน 10 ที่เที่ยววิวสวย แต่เสียดายที่วันนั้นอากาศไม่ค่อยแจ่มใส คลื่นลมค่อนข้างแรง เลยไม่มีแม้แต่รูปวาฬอ้าปากกินลูกปลา ข้อนี้เลยขอแถมวิวจากทุ่งนาที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือเข้าไปด้วย ขับรถผ่านไปตอนเช้าตรู่แล้วประทับใจมาก ทั้งทุ่งนาเต็มไปด้วยต้นข้าวสีเขียวอ่อนใสดูสดชื่น ท้องฟ้าเป็นสีส้มอ่อนมีหมอกสีทองลอยบางๆ

ตอนแรกคิดอยู่ว่าจะพินจุดมาบอกยังไง เพราะตัวเองก็แวะตามรายทาง จนบังเอิญขับเจอร้านกาแฟริมทุ่งนาเข้าพอดี คือ นาตาชม นาตามี

👉🏼 แนะนำขับรถเที่ยวชมทุ่งนายามเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้น แล้วพอ 8 โมงเช้าร้านเปิดค่อยแวะไปค่ะ ไปแต่เช้าจะได้เดินเล่นบนสะพานไม้ที่ตัดผ่านทุ่งนาแบบไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่น เงียบสงบดี
ถ้าเลือกไปได้ที่เดียว ส่วนตัวจะเลือกนาตาชมค่ะ ถึงเล็กกว่าและไม่ใช่นาโล่งกว้างเพราะมีต้นตาลขึ้นแซม แต่มันดูแล้วเป็นเพชรบุรีดี สถานที่กะทัดรัดแต่จัดสรรได้สวยกว่าด้วย

ส่วนนาตามี มีทุ่งนาที่กว้างขวาง มีศาลาให้นั่งปลูกเรียงรายอยู่รอบทุ่งนา แต่ตามคันนาและศาลามีขยะจากลูกค้าเมื่อคืนทิ้งไว้เละเขละไปนิด แสดงว่าที่พริมเห็นตอนเช้าคนโล่งแบบนี้ ตอนเย็นคนต้องแน่นมากแน่
🚗 — นาตาชมและนาตามี 70 กิโลเมตรจากหัวหิน ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
📆 — เปิด 8:00-18:00 เที่ยวได้ทั้งปี แต่นาข้าวจะเขียวสวยช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน (หากปีนั้นทำนาปรังต้นปีก็จะเขียวอีกที)
⏰ — อย่างน้อยน่าจะซัก 30 นาที
💰 — ไม่มีค่าใช้จ่ายพิเศษ
เที่ยวนาแล้วอย่าลืมแวะไปเที่ยวสวนตาลกันต่อ ต้นตาลและขนมหวานนี่ของขึ้นชื่อเมืองเพชรเลย พริมเลือกแวะสวนตาลลุงถนอม มีต้นตาลสูงใหญ่ปลูกเป็นแนวทิ้งระยะสวยงาม ลุงที่ปีนต้นตาลอย่างแคล่วคล่องอนุญาตให้ถ่ายรูปแกตอนปีนแถมยังใจดีให้ความรู้ทั้งเรื่องต้นตาลและขนมตาลสีเหลืองฟูด้วย พริมไปตอนเย็นมากแล้วเลยไม่ได้เห็นสาธิตการกรีดตาลและทำน้ำตาลสด แต่ก็ได้ลอมน้ำตาลสดหอมกลิ่นไหม้นิดๆ อร่อยดี
🚗 — สวนตาลลุงถนอม 60 กิโลเมตร ขับรถ 1 ชั่วโมงโดยประมาณ
📆 — เที่ยวได้ทั้งปี เพราะลูกตาลออกทั้งปี 8:00-18:00 ถ้าไปเช้าวันหยุดจะมีสาธิตวิถีต่างๆ
⏰ — อย่างน้อยน่าจะซัก 30 นาที